วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

มีผู้เข้าชม : 34861 ครั้ง 

น้ำพุธรรมชาต น้ำผุด ปากช่อง




น้ำพุธรรมชาต น้ำผุด ปากช่อง
คนแถวนี้จะเรียกว่าน้ำผุด เป็นตาน้ำที่มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ ลักษณะของน้ำจะใสมาก และไหลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำเยอะกว่าปกติ
จากถนน ธนรัตน์  วิ่งตรงเข้าไปประมาณกม. 15   ให้สังเกตุป้าย มอม่วนหลาย อยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอย  แต่ไม่ต้องเข้าไปใน มอม่วนหลายนะคะ  วิ่งไปอีกหน่อยก็ถึง  อยู่ซ้ายมือติดถนนเลย
บ่อน้ำผุดธรรมชาติ ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเขตอำเภอปากช่อง คนแถวนั้นจะเรียกว่าน้ำผุด เป็นตาน้ำที่มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ ลักษณะของน้ำจะใสมาก และไหลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำเยอะกว่าปกติ
สาเหตุที่น้ำใสก็เพราะว่า น้ำมาจากใต้ดิน ผ่านชั้นหินปูนที่มีแคลเซียมคาร์โบเนตสูง และมีคุณสมบัติเป็นด่าง ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนลง ส่วนสีเขียวใสนั้นก็มาจากคุณสมบัติในความเป็นด่างของน้ำนั่นเอง แต่ไม่ควรดื่มน้ำในที่แห่งนี้เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนิ่วในกระเพราะ ปัสสาวะได้
ทริปนี้เป็นการพาครอบครัวไปเที่ยวเนื่องจากลูกชายอายุได้ 1 ขวบพอดีครับ
Image
 
จนถึงสถานีตำรวจ ตำบลหมูสีมันจะเป็นแยกเลี้ยวซ้าย บางท่านก็เรียกแยก "บ้านไร่"่ 
Image
 
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอวงเวียน ให้เราขับวนเลี้ยวขวามือและตรงไป 
Image
 
เมื่อตรงมานิดเดียวก็จะเจอกับทางแยกอีกครั้ง ให้เราเลี้ยวขวาตรงเสาไฟฟ้าตามรูป ระวังนิดนึง เพราะรถเลี้ยวค่อนข้างเยอะครับ 
Image
 
น้ำพุธรรมชาต น้ำผุด ปากช่อง
จากนั้นก็จะมาเจอลานจอดรถที่เทศบาลหมูสีได้จัดเตรียมไว้ให้ และก็จะเจอป้ายนี้อยู่บริเวณทางเข้าชมน้ำผุด
Image
 
ทางเดินก็ดูร่มรื่น สดชื่น ในวันท้องฟ้าโปร่ง 
Image
 
เมื่อเดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็จะเจอสะพานไม้ พอเดินไปมันก็จะแกว่งไปมา ตื่นเต้นไปอีกแบบ แต่ก็ปลอดภัย 
Image
 
น้ำใสน่ากระโดดดีแฮะ 
Image
 
ตรงนี้จะเป็นที่กำเนิดน้ำออกมา หรือตราน้ำ 
Image
 
ด้านบนก็จะเป็นทางขึ้นไปชมธรรมชาติเพิ่มเติม แต่คิดคงยังปิดปรับปรุงอยู่ 
Image
 
เราสามารถลงไปเล่นน้ำได้ โดยที่ไม่ต้องไปสนสระว่ายน้ำตามโรงแรมห้าดาว แถวๆนี้เลยครับ เพราะมันเทียบกันไม่ได้ 
Image
 
น้ำที่ไหลออกมาตลอดทำให้น้ำสะอาดอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีคนเล่นเยอะก็ตาม
Image
 
พอนักท่องเที่ยวขึ้น แปะเดียวน้ำก็ใสเหมือนเดิม 
Image
 
จะมีคล้ายๆกับที่กั้นน้ำอยู่ 2ช่วง 
Image
 
Image
 
สะพานปูนที่อยู่ข้างๆกับสะพานไม้ 
Image
 
สรุปแล้วสถานที่แห่งนี้ก็คือสระว่ายน้ำธรรมชาติ ใส ไร้เคมี ดีดีนี่เองครับ ^^" 
Image
ถ้าไปช่วยเสาร์-อาทิตย์นะคะ คนจะเยอะมากค่ะ ทางที่ดีไปวันธรรมดาดีก่า ขอแนะนำ เราสามารถนำอาหารมาทานได้ แต่ขอความกรุณาว่าเมื่อทานเสร็จแล้ว กรุณาเก็บขยะที่นำมาให้หมดด้วยนะครับ หรือถ้าเห็นขยะที่ไม่ใช่ของที่เรานำมาก็สามารถเก็บไปทิ้งได้เหมือนกัน เพราะทางเทศบาลเพิ่งจะปรับปรุงไปไม่กี่เดือนนี้เอง ก่อนหน้านี้มีแต่ขยะเต็มไปหมด เราเชื่อว่าทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีในการเป็นนักท่องเที่ยวครับ
ทำนบกั้นน้ำขนาดเล็ก..กั้นลำธารน้ำผุด..ก่อนจะไหลล้นลงสู่ลำคลองเบื้องล่าง


ต้นมอสและเฟริ์นขึ้นกระจายอยู่ตามขอบผนังคอนกรีตของทำนบกั้นน้ำ ดูสดชื่นเขียวขจี งดงามราวกับพรม


มุมเงยย้อนแสงเปิดให้เห็นป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ สีเขียวสดชื่นสบายตา


เล่นน้ำกับลูกชายมีความสุขทั้งพ่อและลูกเลย น้ำใสใหลเย็นเห็นตัวปลา สนุกสุขสันต์กันทั้งครอบครัวเลย




มีผู้เข้าชม : 25181 ครั้ง 

ฟาร์มโชคชัย

ฟาร์มโชคชัย


                ดื่มด่ำกับบรรยากาศแค้มปิ้งแบบบูติคในฟาร์มเลื่องชื่อที่ไม่ไกลจากเมืองหลวง เพียง 160 กิโลเมตร หรือขับรถเพียง 2 ชั่วโมง ณ ดินแดนที่ได้สมญาว่าเป็นต้นแบบคาวบอย ในเมืองไทย สัมผัสนิยามของธรรมชาติ ภายใต้การบริการระดับมาตรฐานฟาร์มโชคชัย บนผืนป่าส่วนตัวกว่า 200 ไร่ เพลิดเพลินกับกิจกรรมสารพัด สัมผัสวิถีชนบทตามแบบฉบับ ชาวตะวันตก ท้องทุ่งกว้างไพศาลของที่นี่ จะปลดปล่อยคุณให้หลุดพ้นจากวิถีของคนเมือง ผ่อนคลายกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกรสชาติสำหรับผู้รักความแตกต่าง จะลองขี่ม้า รีดนมวัว ทำตัวเป็นคาวบอย หรือจะลองทำไอศกรีมในรสชาติที่ไม่ซ้ำแบบใคร พักแรมในแค้มป์ติดแอร์ที่สะดวกสบายเหลือเชื่อ หรือเลือกที่จะหลุดพ้นจากรูปแบบเดิมๆ ด้วยการจัดสัมมนาในห้องกลางป่ากลางฟาร์ม ก่อนกลับเก็บความประทับใจด้วยการ เที่ยวเขาใหญ่ ชมน้ำตกเหวสุวัต หนองผักชี ดูชีวิตสัตว์ป่าการได้ลองใช้ชีวิตท่ามกลาง ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งท้องทุ่งและขุนเขา คือสุดยอดนิยามแห่งความสุขของที่นี่
              ฟาร์มโชคชัย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีทั้งไปเที่ยวแบบแพ็คเกจ ที่นี่เขาจะมีแบบนอนพักและทำกิจกรรมภายในฟาร์ม 3 วัน 2 คืน 2 วัน 1 คืน และเที่ยวแบบวันเดียวไม่นอนพัก 1 day Trip ด้วยทำเลที่ตั้ง อยู่ทางไปกรุงเทพ จึงทำให้เป็นจุดแวะพักระหว่างการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย มีทั้งสเต็ก ที่ของที่มีชื่อเสียงสำหรับฟาร์มโชคชัย ที่เลี้ยงโคสายพันธ์ต่างๆ แฮมเบอร์เกอร์ ไอศครีมนมสด อืมม์มิล ที่ผลิตจากนมสดๆ ในฟาร์มแห่งนี้ และของฝากต่างๆ กระหรี่บัฟ กุนเชียง หมุแผ่น ของที่ระลึก มุมถ่ายรูปสวยๆ กิจกรรมกลางแจ้ง การพาเที่ยวชมฟาร์ม การทำไอศครีม รับรองว่าคุณจะได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ

Farm Chokchai Agro-Knowledge Tour เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าชมกิจการของฟาร์มทั้งหมดได้เพียงวันละ 18 รอบเท่านั้นโดยแต่ละรอบจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที และเปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ (แต่จะเปิดให้บริการหากวันจันทร์นั้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)

Umm!..Milk Ice Cream Workshop กิจกรรมที่สามารถสานสายสัมพันธ์แห่งครอบครัว และลดช่องว่างระหว่างวัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะไอศกรีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมชมชอบในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ดังนั้นการได้ร่วมกันลงมือผลิต และปรุงแต่งรสชาติที่แต่ละคนชื่นชอบ พร้อมทั้งแต่งหน้า ไอศกรีมได้ตามชอบใจ
ฟาร์มโชคชัยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ-ปากช่อง กิโลเมตรที่ 159-160เป็นฟาร์มโคนม ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เปิดกิจการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจนได้รับรางวัล แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดีเด่น รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ปี 2545 ที่จะนำทุกท่านเข้าร่วมสัมผัส กลิ่นไอของการทำ ฟาร์มโคนมมาตรฐานขนาดใหญ่ในสถานที่ประกอบการจริงโดยมีผู้นำชมตลอดรายการ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จะได้พบกับฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ฟาร์มแห่งการเรียนรู้ โดยท่านจะได้สัมผัสกับ บรรยากาศ ประสบการณ์ และสาระความรู้ พร้อมทั้งได้รับความเพลิดเพลิน ในวิถีชีวิตของเกษตรกร มาตรฐาน ธุรกิจ ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ อาทิ เช่น การรีดนมวัวด้วยตัวเอง การมีส่วนร่วมในการผลิต ไอศกรีมนมสด อื้ม !! มิลค์ ไอศกรีมนมสดที่ให้คุณมีส่วนร่วมในการผลิต การแสดงวิถีคาวบอย การชมลีลาของสุนัข ต้อนแกะ การป้อนนมลูกวัว ด้วยตัวเอง และอื่นๆ อีกมากมาย ในฟาร์ม โดยกิจกรรมต่างๆ จัดขึ้นบนสถานประกอบธุรกิจ ฟาร์มโคนมจริงๆใน มาตรฐานการเข้าชมแบบหมู่คณะ โดยแบ่งเป็น รอบๆ ของการให้บริการ นอกจากนี้ที่ฟาร์มโชคชัยยังให้บริการที่พัก


  • ชมวีดีทัศน์ประกอบคำบรรยายเกี่ยวกับฟาร์มโชคชัยในอดีต และทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อห้ามและข้อปฏิบัติ ภายในบริเวณฟาร์ม
  • ชมพิพิธภัณฑ์เครื่องจักรและรถใช้งานในสมัยที่เริ่มบุกเบิกฟาร์ม
  • ชมการรีดน้ำเชื้อจากโคพ่อพันธุ์ ที่แข็งแรงสมบูรณ์ในเหตุการณ์จริง และเกร็ด ความรู้ของการผสมเทียม
  • ชมการรีดนมโคด้วยเครื่องรีดนมอัตโนมัติและร่วมกิจกรรมรีดนมด้วยมือของตัวท่านเอง
  • เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมและโรงงานผลิตไอศกรีม ท่านจะได้เรียนรู้กระบวนการผลิตนมสดพาสเจอร์ไรส์ และไอศกรีม รสชาติต่างๆ พร้อมชิมลิ้มรสไอศกรีมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของฟาร์มภายใต้ชื่อ "อืมม!... มิลค์"
  • นำท่านนั่งขบวนรถคาราวาน “ฟาร์มแทร็กเตอร์” ชมความยิ่งใหญ่ของฟาร์มโชคชัย บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของ 20,000 ไร่ผ่านคอกแม่โคพันธุ์ดี ฟังความรู้เกี่ยวกับพืชอาหารสัตว์และวิธีการหมุนเวียนทรัพยากรน้ำภายในฟาร์ม ชมทัศนียภาพท้องทุ่งกว้าง การปลูกพืชอาหารสัตว์ แปลงหญ้า แปลงข้าวโพดเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ บ่อหญ้าหมัก และทุ่งดอกทานตะวันซึ่งเมล็ดใช้เป็นพืชอาหารสัตว์ภายในฟาร์ม
  • ตื่นตาตื่นใจกับการต้อนฝูงโคแบบคาวบอย และท่านยังสามารถร่วมสนุกกับการขี่ม้าถ่ายรูปหรือจะถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวันหรือสวนแก้วมังกร ตามแต่อัธยาศัย และชมการแสดงของคาวบอยในรูปแบบของฟาร์มโชคชัย และร่วมเล่นเกมส์ต่างๆ มากมาย
  • ชมความสามารถของสุนัข ในการต้อนฝูงแกะ ในรูปแบบต่างๆ ระหว่างทาง ชมฟาร์มม้าแข่งสายพันธุ์ดีจาก ต่างประเทศ
  • สุดท้าย เพลิดเพลินกับสวนสัตว์ขนาดย่อม ซึ่งรวมกิจกรรมหลากหลาย เช่น ป้อนอาหารกวาง  กระต่าย ป้อนนมลูกโคฯลฯ รวมทั้งการแสดงบนเวทีของสัตว์แสนรู้ต่างๆ มากมาย

  • 1.โดยรถส่วนตัว
    ห่างจากตัวเมืองไปทาง อ.ปากช่อเป็นระยะทาง 85 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพ-ปากช่อง ตรงหลักกิโลเมตร
    ที่ 159 สังเกตจากป้ายบอกทางจะมีบอกเป็นระยะ

    แผนที่ฟาร์มโชคชัย

    วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

    ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสมัยขอม ที่ใหญ่โต และงดงามอลังการนั่นคือ
    “ปราสาทหินพิมาย”แหล่งโบราณคดีที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ บนพื้นที่ 115 ไร่ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสมัยขอมที่ใหญ่โตและงดงามอลังการนั่นคือ “ปราสาทหินพิมาย” แหล่งโบราณคดีที่ ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ บนพื้นที่ 115 ไร่ วางแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 565 เมตร ยาว 1,030 เมตร ชื่อ“พิมาย” น่าจะมาจากคำว่า “วิมาย” หรือ “วิมายปุระ” ที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตู ระเบียงคด ด้านหน้าของปราสาทหินพิมาย และยังปรากฏชื่อในจารึกอื่นอีกหลายแห่ง อาจจะเป็นคำที่ใช้เรียกรูป เคารพหรือศาสนาสถานสิ่งที่เป็นลักษณะพิเศษของปราสาทหินพิมาย คือ ปราสาทหินแห่งนี้สร้างหันหน้าไปทาง ทิศใต้ต่างจาก ปราสาทหินอื่นที่มักหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางที่ตัดมาจาก เมืองยโศธรปุระเมืองหลวงของอาณาจักรเขมรซึ่งเข้าสู่เมือง พิมายทางด้านทิศใต้จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะ การก่อสร้างบ่งบอกว่าปราสาทหินพิมายคงจะ เริ่มสร้างขึ้นในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ในสมัยพระเจ้า สุริยวรมัน ที่ 1 รูปแบบทางศิลปกรรมของตัวปราสาทเป็น แบบปาปวนซึ่งเป็นศิลปะ ที่รุ่งเรืองในสมัยนั้น โดยมี ลักษณะของศิลปะแบบนครวัตซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยต่อมาปนอยู่บ้าง และมาต่อเติมอีกครั้งในราวต้นพุทธศตวรรษ ที่ 18 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งครั้งนั้นเมืองพิมายเป็นเมืองซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาณาจักรเขมร ปราสาทหินแห่งนี้สร้างเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิมหายานมาโดยตลอด เนื่องจากพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงนับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน
    1.สะพานนาคราช
    เมื่อเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทหินพิมายจะผ่านส่วนนี้เป็นส่วนแรก จะเห็นสะพานนาคราชและประติมากรรมรูปสิงห์ ตั้งอยู่ด้านหน้าของซุ้มประตูด้านทิศใต้ ของปรางค์ประธานซึ่งเป็นส่วนหน้าของปราสาท ทั้งนี้อาจมีจุดมุ่งหมายใน การสร้าง ให้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเชื่อมต่อ ระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ ตามคติความเชื่อในเรื่อง จักรวาลทั้งในศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ มีลักษณะเป็นรูปกากบาท ยกพื้นขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 2.50 เมตร ราวสะพานโดยรอบทำเป็นลำตัวพญานาค ชูคอแผ่พังพานเป็นนาคเจ็ดเศียร มีลำตัวติดกันเป็นแผ่น หันหน้าออกไป ยังเชิงบันไดทั้งสี่ทิศ
    2.ซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอกของปราสาท 
    ถัดจากสะพานนาคราชเข้ามาเป็นซุ้มประตูหรือที่เรียกว่า โคปุระ ของกำแพงปราสาทด้านทิศใต้ ก่อด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาทและมีซุ้มประตูลักษณะเดียวกันนี้อีก 3 ทิศ คือ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก โดยมี แนวกำแพงสร้างเชื่อมต่อระหว่างกันเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวจากเหนือถึงใต้ 277.50 เมตร และกว้างจาก ตะวันออกไปตะวันตก 220 เมตร
    3.พลับพลา
    ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงชั้นนอก ด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิม เรียกกันว่า "คลังเงิน" จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิษฐานว่าคงเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ หรือเจ้านาย ชั้นสูง ที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขวบนสิ่งของถวายต่างๆ จากการขุดแต่งบริเวณนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก มีทั้งรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริด เป็นเหตุให้เรียก กันว่า "คลังเงิน"
    4.ซุ้มประตูด้านทิศตะวันตก
    มีทับหลังชิ้นหนึ่งสลักเป็นรูปขบวนแห่ พระพุทธรูปนาคปรก ที่ประดิษฐานอยู่เหนือคานหาม
    5.ซุ้มประตูและกำแพงชั้นใน ระเบียงคด
    เมื่อผ่านจากซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอกไปแล้ว ก็จะถึงซุ้มประตูและกำแพงชั้นใน ซึ่งล้อมรอบปรางค์ประธาน กำแพง ชั้นในของปราสาทแตกต่างจากกำแพงชั้นนอก คือ ก่อเป็นห้องยาวต่อเนื่องกันคล้ายเป็นทางเดิน มีหลัง คาคลุม อันเป็น ลักษณะที่เรียกว่า ระเบียงคด มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวจากเหนือถึงใต้ 80 เมตร และ ความกว้างจาก ตะวันออกถึงตะวันตก 72 เมตร มีทางเดินกว้าง 2.35 เมตร เดินทะลุกันได้ตลอดทั้งสี่ด้าน หลังคา มุงด้วยแผ่นหิน
    6.ซุ้มประตูและกำแพงแก้ว 
    ซุ้มประตูหรือโคปุระ ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว อยุ่ในแนวตรงกันหมดทั้ง 4 ด้าน คือ ทิศเหนือ-ใต้ อยู่ตรง กึ่งกลางของกำแพง ทิศตะวันออก-ตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ผังโดยรอบของซุ้มประตูมีลักษณะเป็นรูป กากบาท จากกำแพงแก้วเข้ามาด้านในเชื่อกันว่าเป็นดินแดนของโลกสวรรค์ อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า
    7.ปรางค์ประธาน
    ตั้งอยู่กลางลานภายในระเบียงคด เป็นศูนย์กลางของศาสนสถานแห่งนี้ ปรางค์ประธานสร้างด้วยหินทรายสีขาว ทั้งองค์ ต่างจากซุ้มประตู(โคปุระ)และกำแพงชั้นในและชั้นนอกที่สร้างด้วยหินทรายสีแดงเป็นหลัก มีหินทราย สีขาว เป็นส่วนประกอบบางส่วน เนื่องจากหินทรายสีขาวมีคุณสมบัติคงทนดีกว่าหินทรายสีแดง องค์ปรางค์สูง 28 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสองยาวด้านละ 22 เมตร ด้านหน้ามีมณฑปเชื่อมต่อกับองค์ปรางค์โดย มี ฉนวนกั้น องค์ปรางค์และมณฑปตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนด้านอื่น ๆ อีกสามด้านมีมุขยื่นออกไปมีบันไดและ ประตูขึ้นลงสู่องค์ปรางค์ทั้งสี่ด้าน
    8.ปรางค์พรหมทัต 
    ตั้งอยู่ด้านหน้าปรางค์ประธานเยื้องไปทางซ้ายสร้างด้วยศิลาแลง มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม กว้าง 14.50 สูงประมาณ 15 เมตร สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภายในปรางค์พบประติมากรรมหินทรายจำหลักเป็นรูป ประติมากรรมฉลององค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่7 (จำลอง) ที่เรียกว่า ปรางค์พรหมทัต ก็เพื่อให้เข้ากับตำนาน พื้น เมือง เรื่องท้าวพรหมทัตพระเจ้าแผ่นดิน ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เก็บรักษาองค์จริงไว้ที่พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ พิมาย
    9.ปรางค์หินแดง ตั้งอยู่ทางด้านขวา สร้างด้วยหินทรายสีแดง กว้าง 11.40 เมตร สูง 15 เมตร มีมุขยื่นออกไปเป็นทางเข้าทั้ง 4 ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือมีทับหลังสลักเป็นภาพเล่าเรื่องในมหากาพย์ภารตะตอนกรรณะล่าหมูป่า
    10.หอพราหมณ์ 
    เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันกับบปรางค์หินแดง ในปี พ.ศ. 2493 ได้ค้นพบ ศิวลึงค์ สลักด้วยหินทรายจำนวน 7 ชิ้นอยู่ภายในหอพราหมณ์ เชื่อกันว่าอาคารหลังนี้คงเป็นสถานที่ประกอบ พิธีทางศาสนาพราหมณ์ แต่จากรูปแบบและตำแหน่งที่ตั้งเดิมคงเป็นที่ตั้ง ของ บรรณาลัยมากกว่า
    11.บรรณาลัย
    ตั้งอยู่บริเวณลานชั้นนอก ระหว่างกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคด ด้านทิศตะวันตกเป็นอาคาร 2 หลังขนาด เดียวกัน ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง ก่อด้วยหินทรายกั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว พบร่องรอยหลุม เสารูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง เชื่อกันว่าบรรณาลัยคือสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์ อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา
    ทริปนี้ เมืองไทย.คอม พาเพื่อนๆไปตามรอยอารยธรรมขอม ที่ปราสาทหินพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นศาสนาสถานทางพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่สำคัญปราสาทหินพิมายเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17 อีกทั้ง ยังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยมีความเชื่อกันว่า ปรางค์ประธานปราสาทหินพิมายเป็นต้นเค้าของปราสาทนครวัด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา

    วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555


    สวนสัตว์นครราชสีมา" 

    "สวนสัตว์นครราชสีมา"  ในองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมป์  สังกัด  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี มื่อวันที่  23  พฤษาคม  2532  ในสมัย   พลเอกชาติชาย  ชุณหะวัณ   เป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้  ชื่อโครงการ "สวนสัตว์นครราชสีมา " จนกระทั่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14  ธันวาคม 2539 โดยมีพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธี และใช้ชื่อว่า "สวนสัตว์นครราชสีมา" เป็นต้นมา สวนสัตว์นครราชสีมาจัดเป็นสถานที่ พักผ่อนเชิงนิเวศของประชาชน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่าและธรรมชาติศึกษา ของเยาวชนที่มีความทันสมัย ตามมาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ให้มีคุณภาพระดับสากล

    อัตราค่าเข้าชม

    ค่าบัตรผ่านประตู  (รวมใช้บริการสวนน้ำสันทนาการ)     

    ผู้ใหญ่ 70 บาท   เด็ก 15 บาท  

    นักศึกษาปวช.-มหาวิทยาลัย ครู ทหารตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 30  บาท

    ผู้ใหญ่ ชาวต่างชาติ 100 บาท   เด็ก 50 บาท

    ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)

    คนพิการพระภิกษุ สามเณร ชมฟรี

    ค่าจอดรถยนต์  รถจักรยานยนต์ 10  บาท รถยนต์ 4 ล้อ 50 บาท 

    รถโดยสาร  60  บาท              

    รถไฟพ่วงนำชม  ผู้ใหญ่  20  บาท       เด็ก 10 บาท

    รถจักรยาน  

    แบบเดี่ยว 20 บาท/ชั่วโมง 

    แบบนั่ง 2 คน 30 บาท/ชั่วโมง

    รถกอล์ฟ 300 บาท/ชั่วโมง 

    การแสดงความสามารถของแมวน้ำ  ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก  10 บาท

      

    ที่่ตั้ง/การเดินทาง

     ตั้งอยู่เลขที่ 111  ม.1 ถ.ราชสีมา-ปักธงชัย ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
    เดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ เพียง 250 กิโลเมตร  และเพียง 19 กิโลเมตร จากจังหวัดนครราชสีมา ทางหลวงหมายเลข 304 ถนน ราชสีมา-ปักธงชัย หรือใช้บริการรถโดยสารจากในเมืองหมายเลข 4129  สู่สวนสัตว์นครราชสีมา